วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

ลดลงยิ่งนักกว่าพ่ายแพ้!

แย่ยิ่งกว่าจำนน!


ฟุตบอล


วิเคราะห์บอล: เพื่อความพ่ายพ่ายแพ้ เหรอ การต้องตกรอบตารางบอลในการแข่งขันกีฬานั้น ถือเป็นสิ่งที่เจ็บปวดพร้อมทั้งน่าผิดหวังเสมอเนื่องด้วยทุกคนที่เกี่ยวข้อง และถ้าจะมีอะไรที่แย่ไปกว่านั้น ก็คงเป็นการปราชัยโดยที่ทุกคนเบ้ปากใส่แล้วกราบทูลว่าสมควรแล้ว

พร้อมด้วยสถานการณ์ของ หมู่เชลซี หลังจบจากเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับ ฝ่ายปารีส แซงต์-แชร์กแมง ปางคืนวันพุธ น่าจะใกล้เคียงกับที่จั่วหัวเอาไว้

เพราะว่านอกจากจะตกรอบไปอย่างชอกช้ำ จากการทำได้แค่ผลบอลเสมอ 2-2 ในบ้านตัวเอง หลังที่มีผู้เล่นมากกว่าถึงสองในสามของเวลาที่เตะกันแล้ว

ฝ่ายสิงโตสีคราม ยังถูกวิจารณ์ อย่างหนักจากการแสดงออกของนักเตะในสนาม ในจังหวะการฟาวล์ต่อออสการ์ที่ทำให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวเตะคนสำคัญของคู่แข่ง โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป

และแน่นอนว่าการตัดสินของ บียอร์น คีเปอร์ส กรรมการชาวดัตช์ ที่คิดว่าจังหวะนี้ควรเป็นใบแดง ถือเป็นวิจารณญาณของเขาเองด้วยที่โดนจวกหนักไม่จำนนกัน แต่หลายคนก็มองว่าการแสดงออกของนักเตะ หมู่เชลซี ที่เข้าไปห้อมล้อมพร้อมด้วยโหวกเหวกโวยวายเกินจำเป็นนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย


วิเคราะห์บอล


ซึ่งบรรดาเกจิในแวดวงลูกหนัง ทั้งอดีตนักเตะพร้อมทั้งผู้จัดการกรุ๊ปชื่อดังหลายคน ต่างก็มองไปในทางเดียวกันว่ากองหน้าของ ทีมเปแอสเชโชคร้ายที่โดนใบแดง ด้วยกันพฤติกรรมของนักเตะ กลุ่มเชลซี เป็นสิ่งที่น่าอัปยศอดสู

โดยที่ อลัน กรีน คอมเมนเตเตอร์ของ BBC วิเคราะห์ผลบอลพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า มันแย่มากที่ได้เห็นนักเตะมากมายหลายคนแสดงพฤติกรรมแบบนั้นในสนาม ผมจักไม่ปกป้องพวกไร้สมองที่ทำตัวน่าขายหน้าแบบนี้แน่

ซึ่ง แกรม ซูเนสส์ อดีตนักเตะด้วยกันผู้จัดการกลุ่มชื่อดัง ได้ออกมา วิจารณ์ออสการ์ที่เจตนาเรียกใบแดงให้คู่แข่งในจังหวะที่โดนทำฟาวล์ด้วย

เรียกได้ว่ามันเป็นสิ่งที่เราไม่จำเป็นต้องทำเลย มันรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง การที่นักเตะพยายามล้มเพื่อให้คู่แข่งโดนไล่ออก

และมันไม่ใช่วิถีของอังกฤษ มันกำลังคืบคลานเข้าสู่เกมของเรา ซึ่งผมรู้สึกว่ารับไม่ได้นักๆ

พร้อมกับแม้เวลามีใครเข้าสกัดคุณ คุณมักจักต้องการล้มลงไปเพื่อให้เขาโดนเล่นงาน มันน่าสมเพชแบบนี้แหละ ขอบคุณสวรรค์ที่เปแอสเชไม่ยอมจำนนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขากลับไปพร้อมกับเครดิตที่สมควรได้รับ พวกเขาเป็นเหล่าที่ดีกว่า

ทางด้านเจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ฝ่ายลิเวอร์พูล ได้วิจารณ์ไปถึงโจเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการหมู่เชลซี ว่าเป็นคนปลูกฝังทัศนคติแบบนี้ให้กับนักเตะ


โปรแกรมบอล


ซึ่งการแสดงออกของนักเตะ หมู่เชลซีเป็นเรื่องที่น่าอดสู มันมาจากทุกทีมของโจเซ่ มูรินโญ่ กรุ๊ปของเขามักจักทำพฤติกรรมแบบนี้เสมอ มันไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว

กับในบางทีสิ่งที่เขาพูดไว้ก่อนเกมว่าเปแอสเชเป็นกรุ๊ปที่เล่นสกปรกที่สุด อาจจะถูกฝังไว้ในหัวของกรรมการไปแล้ว

ส่วนตัว ผมคิดเสมอว่ากรุ๊ปของมูรินโญ่อาจจะได้รับการยอมรับในฝีเท้า แต่หมู่ของเขาจะไม่มีทางเป็นกรุ๊ปที่คนรัก เพราะสถานการณ์แบบนี้นี่แหละ ฝ่ายของเขาเอาคำว่าชนะไปอยู่ตรงจุดที่หมู่อื่นหรือผู้จัดการคณะคนอื่นทำไม่ได้ คำพูดของเขามีอิทธิพลไปแล้ว

ในขณะที่ ไมเคิล โอเว่น อดีตดาวยิงชื่อดัง ก็มีความเห็นไปในทางเดียวกัน พร้อมกับมองว่าจังหวะนี้ไม่ควรเป็นใบแดง

สมมตเป็นจังหวะนี้ ต้องไม่ใช่ใบแดงแน่นอน พฤติกรรมของนักเตะเชลซีน่าช็อกสุดๆ การทำอะไรแบบนี้มีอิทธิพลต่อเกมได้ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาทำ

เพราะที่ผมดีใจที่เห็นคาร์ราเกอร์กับซูเนสส์คิดตรงกับผมเป๊ะ เกมฟุตบอลคงกลายเป็นเรื่องตลกไปเลย ถ้านักเตะเกริ่นมีอิทธิพลต่อเกมด้วยการเข้าไปกดดันกรรมการ

พร้อมทั้งมาร์ค ลอว์เรนสัน ที่เป็นอดีตกองหลัง กรุ๊ปลิเวอร์พูล ซึ่งผันตัวไปทำงานด้านสื่อมานาน ก็ร่วมแสดงความไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของนักเตะ กรุ๊ปเชลซีเช่นกัน

สำหรับการแสดงออกของนักเตะ คณะเชลซีนั้นเหละบือเชื่อมาก ถ้าดูจากการที่การทำฟาวล์จังหวะนี้ไม่ได้รุนแรงอะไรขนาดนั้นเลย ผมเกือบจะคิดว่าเขาทำคู่แข่งขาหักซะอีก ออสการ์สมควรได้รับออสการ์เลย

กับสิ่งที่เกิดขึ้นฉุดให้เกมฟุตบอลถอยหลังเข้าคลอง พฤติกรรมโอเวอร์เกินเหตุต่อการทำฟาวล์ของคู่แข่ง เกมฟุตบอลกำลังจักกลายเป็นละครเข้าไปทุกทีแล้ว

A ในส่วนของ เกรแฮม โพลล์ อดีตผู้ตัดสินชื่อดังของอังกฤษ ก็มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสาบานณอันตรายของเกมฟุตบอล


พรีเมียร์ลีก


ซึ่งพฤติกรรมของนักเตะ คณะเชลซี ตอนที่เข้าไปรุมล้อม บียอร์น คีเปอร์ส เป็นความอัปยศอย่างแท้แน่ๆ พร้อมทั้งมันเป็นรับปากณที่ปริปากว่าเกมฟุตบอลในปัจจุบันกลายเป็นแบบไหนไปแล้ว

ส่วนทางด้าน จอห์น อัลดริดจ์ อดีตศูนย์หน้า กลุ่มลิเวอร์พูล อีกคน ออกมาตำหนิวิธีการเล่นของมูรินโญ่ที่ไม่เน้นเกมบุกมากพอ

กรุ๊ปเชลซีได้ในสิ่งที่สมควรได้รับแล้ว วิธีการเล่นของพวกเขาสะท้อนตัวตนผู้จัดการพวกของพวกเขาออกมา การเล่นเกมรับในบ้านน้อยครั้งที่จะเวิร์ก

พร้อมทั้ง โลร็องต์ บล็องก์ โค้ชของ กลุ่มปารีส ย้ำว่าพวกของเขาสมควรได้ตัดผ่านเข้ารอบ 8 เหล่าสุดท้ายอย่างแท้เป็นแน่แท้ ไม่ว่าจักมีเหตุการณ์ปัญหาเกิดขึ้นในเกมนี้เหรอไม่ก็ตาม

ซึ่งต่อให้คุณตัดการแสดงออกอย่างไม่มีน้ำใจนักกีฬาพวกนั้นออกไปจากเกม ผมก็คิดว่าทีมของผมดีกว่าเชลซีในทุกจุดของสนาม เปแอสเชสมควรเข้ารอบแล้ว

ในขณะที่อิราฮิโมวิชเองได้เหน็บแนมพฤติกรรมของคู่แข่งเบาๆ ว่าทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต

ภายหลังที่ผมเห็นกรรมการควักใบแดงออกมา ผมนี่แบบว่า เขารู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่นี่ยังไม่ใช่ส่วนที่แย่ที่สุดนะ ที่แย่ที่สุดก็คือในจังหวะนั้น นักเตะ คณะเชลซี ทุกคนกรูกันเข้ามารุมล้อมเต็มไปหมด ผมรู้สึกเหมือนโดนเหล่าเด็กน้อยมากลุ้มรุมอยู่รอบตัวเลย

เรื่องเพราะ : Bebybear

ที่มา: http://event.sanook.com/football

วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

จำเป็นต้องอย่าอนุญาตให้สิ่งมีชีวิตชั่วลอยนวลเป็นอันขาด บอลแมนยู

ต้องอย่า ปลดปล่อยให้คนชั่วลอยนวลเด็ดขาด!!




ก็ต้องขอทำนูลว่า ให้เสรีภาพคนชั่วสิบคนดี ดีกว่าจับคนบริสุทธิ์แทบคนเดียว!!! นั้นเป็นวลีที่นึกขึ้นได้ปางวันก่อนภายหลังดูการถ่ายทอดสด ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกระหว่าง ทีมปิศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด กับ หมู่แมวดำ ซันเดอร์แลนด์

ซึ่งผลการแข่งขันเป็นไปตามคาดลูกคณะของ หลุยส์ ฟาน ฮัล เอาตัวรอดด้วยชัยชนะผลบอล 2-0

แต่ว่าในจังหวะที่ประสงค์พูดถึงคงหนีไม่พ้น การที่ เวส บราวน์ อดีตศิษย์เก่าสำนักโอลด์ แทรฟฟอร์ด ถูกผู้ตัดสิน โรเจอร์ อีสต์ ให้ใบแดงไล่ออกจากสนาม

ซึ่งถ้าพี่น้ำตาลทำฟาวล์หรือกระทำผิดจริงๆ ในจังหวะที่ไปเหนี่ยว ศูนย์หน้าตีนบอด อย่าง ราดาเมล ฟัลเกา ก็คงไม่เป็นประเด็นอะไร แต่ผู้กระทำผิด ที่แท้แน่แท้ ในจังหวะนั้น ดันเป็นเพื่อนร่วมอดีตสำนักเดียวกันอย่าง จอห์น โอเช ที่เป็นคนไปเหนี่ยวศูนย์หน้าชาวโคลอมเบีย

แต่ว่าที่สำคัญ ในจังหวะที่เหนี่ยวไม่ใช่แค่จับแล้ว ช่าง แต่เป็นการเหนี่ยวแล้วยังดึงรั้งตัว ฟัลเกา ที่กำลังจะพลิกบอลเข้าไปยิงประตูถึง 2 จังหวะ 2 ครั้ง ด้วยกัน

และในขณะที่พี่น้ำตาลผู้โชคร้ายดันไปอยู่แถวนั้นพอดี ตราบเสียงนกหวีดดังขึ้น ยังไงก็เป็นจุดโทษ แต่กรรมการเจ้ากรรมดันไปให้ใบแดงพี่น้ำตาลแทนที่จักเป็นโอเช

ซึ่งตราบใดพี่น้ำตาลถูกกล่าวหาพยายามจักอธิบายให้ผู้ตัดสินเข้าใจว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดก็ไม่เป็นผล จึงต้องตกอยู่ในสถานะ ถูกจับแพะ แบบไม่มีทางเละบือก




เพราะที่แสบไปกว่านั้นคือ ผู้กระทำผิดที่แท้นักอย่างโอเชดันเดินไปให้กำลังใจตบหลังพี่น้ำตาลตอนที่เดินออกจากสนาม เชื่อว่าในใจของ แพะ อย่างพี่น้ำตาลคงอาจจักคิดลึกๆ เผาพริกเผาเกละบือให้เพื่อนร่วมฝ่ายที่ลอยนวล

ซึ่งแทนที่จะช่วยเข้ามายืนยันว่าตัวเองทำผิดพร้อมกับยอมเดินออกจากสนาม ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่า โชคร้ายมากๆ ในแง่ความรู้สึก แม้ว่าใครจะถูกไล่ออกกรุ๊ปก็คงจำนนเหมือนกัน เพราะว่าทั้ง บราวน์ กับ โอเช ไม่ได้มีใครเล่นดีกว่ากันซักเท่าไหร่

สมมตจะว่าไปก็คล้ายๆ กับเหตุการณ์ครั้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในเกมระหว่าง พวกสิงห์บลู เชลซี กับ กรุ๊ปเบิร์นลี่ย์ ในจังหวะที่ เนมันย่า มาติช ถูกไล่ออกหลังจากวิ่งไปผลัก แอชลี่ย์ บาร์นส์

ในที่จังหวะก่อนหน้านั้น เจ้าบาร์นส์ตัวแสบนี่แหละดันเข้าวิเคราะห์บอลเปิดปุ่มแบบน่าเกลียดใส่มิดฟิลด์ของ กลุ่มเชลซี

พร้อมด้วยที่สำคัญกรรมการเจ้ากรรม อีกแล้ว อย่าง มาร์ติน แอตกินสัน ที่มากประสบการณ์ดันไม่เห็น หรือไม่ก็เปล่า ในจังหวะนั้น จึงไม่ได้เป่าฟาวล์หยุดเกมแต่อย่างใด

ซึ่งแน่แท้ๆ ขอแนะนำใครที่มีเวลาลองหาเทปใช่ไหมคลิปย้อนดูในจังหวะนั้นอีกรอบ จักรู้ว่าเจ้าบาร์นส์ตัวแสบนี่แหละสมควรโดนไล่ออกจากสนามในฐานะผู้กระทำผิดที่แท้นัก




ด้วยกันเหตุผลที่ มาติช เองนั้นก็กำกับอารมณ์ไม่อยู่ เป็นแน่แท้ๆ จังหวะนั้นถ้าใครคุมอยู่ก็คงต้องชาบู บูชา ก็ต้องรับกรรมไป ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็น เหยื่อ ก่อนแท้ๆ ขณะที่ผู้ร้ายลอยนวล!!!

ซึ่งในเหตุการณ์นั้นต้องยอมรับว่าเป็นจุดเปลี่ยนของเกมคู่นี้ เพราะว่าเชลซีที่เหเล่าลือตัวผู้เล่นน้อยกว่า ถูกตีเสมอ จบเกมจากสามแต้มที่ควรได้เหเลื่องลือเช่นแต้มเดียว

พร้อมกับนี่แหละคือเกมฟุตบอลที่ Human Error อาจจักเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้แฟนบอลทั้งหลายบางคน

แต่ว่าด้วยผู้ถูกกระทำอย่าง เวส บราวน์ พร้อมทั้ง เนมันย่า มาติช คงขำไม่ออก พร้อมด้วยเจ็บปวดพอสมควรกับโลกของฟุตบอลที่บางทีความยุติธรรมก็ไม่ใช่สิ่งที่จักหาได้ง่ายๆ ครับ

ที่มา:http://sport.sanook.com/136273/

ติดตามชมอ่าน ข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล โปรแกรมบอล โปรแกรมพรีเมียร์ลีก ตารางบอล ได้ที่ http://event.sanook.com/football