วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

เวนเกอร์ยังมั่นปืนจบท็อปโฟร์แม้พลุ่ยเจ๊าทอฟฟี่

 


เวนเกอร์ยังมั่นปืนจบท็อปโฟร์แม้หลุดเจ๊าทอฟฟี่ 
เวนเกอร์ยังมั่นปืนจบท็อปโฟร์แม้หลุดเจ๊าทอฟฟี่

ฟุตบอล : อาร์แซน เวนเกอร์ ยังมั่นใจ ''ไอ้ปืนใหญ่'' ติดอันดับ 1-4 คว้าตั๋วชปล.ซีซั่นหน้า แม้เกมล่าสุดหลุดพ้นเสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0

อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม "ไอ้ปืนใหญ่"อาร์เซน่อล แสดงความมั่นใจว่าทีมของเขา ยังมีช่องทางจบฤดูกาลด้วยการติดอันดับ 1 ใน 4 อย่างแน่ๆ

 

แม้นัดล่าสุดจะทำได้แค่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน คู่อริแย่งตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกผลบอล 0-0 ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอังคารที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา

เวนเกอร์ ให้สัมภาษณ์หลังจบการประลองผ่าน"สกายสปอร์ตส" สื่อดังเมืองผู้ดีว่า

 

"ผมคิดว่าเรายังอยู่ในเส้นทางที่ดีนะ อย่างที่คุณเห็นถ้าเรายังบำรุงรักษาสปิริตที่ดีแบบนี้ไว้ได้ต่อไป ผมมั่นใจว่าเราจะถึงฝั่งฝันแน่ เราอยู่ในตำแหน่งที่ดี แต่เกมหน้าเราต้องชนะ (เยือน ฟูแล่ม) เราต้องสนใจแค่ผลการแข่งขันเท่านั้น"

อย่างไรก็ตาม กุนซือเฟร้นช์แมน ไม่ค่อยพอใจกับการทำหน้าของ นีล สวอร์บริค ผู้ตัดสินในเกมนี้ ที่ปล่อยให้นักเตะ "ทอฟฟี่บลูส์" ไล่หวดลูกทีมของเขาหลายต่อหลายครั้ง

 

"ผมคิดว่ากรรมการปล่อยเกมมากเกินไปในครึ่งแรก แต่เราก็เป็นได้ปรับตัวรับมือได้ดี เราไม่เสียที่นี่นั่นก็เอ้ เรามีช่องทางยิงที่นี่หลายครั้ง แต่บางครั้งเราดูเกร็งจนเกินไป"

ทั้งนี้ อาร์เซนอล ยังคงรั้งอันดับที่ 3 ของตารางต่อไป แต่ก็นำหน้า เชลซี ซึ่งลงเตะน้อยกว่า 2 นัดอยู่ 2 คะแนน และทิ้ง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ลงเตะน้อยกว่า 1 นัด 2 แต้มเท่านั้น

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556

บาเซิ่ลแม่นสิ่งร้ายปิดไก่4:1ทะลุ4ทีม

 


บาเซิ่ลแม่นโทษดับไก่4:1ทะลุ4ทีม+คลิป 
บาเซิ่ลแม่นโทษดับไก่4:1ทะลุ4ทีม+คลิป

ฟุตบอลยูโรป้า ลีก 

รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดสอง

วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน 2556

เอฟซี บาเซิ่ล 2:2 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
(นัดแรกเสมอ 2:2 จุดโทษ 4:1 บาเซิ่ลเข้ารอบ)

สนาม : เซนต์ ยาค็อบ ปาร์ค

ผู้ตัดสิน : โอเลการิโอ เบนเกเรนก้า (โปรตุเกส)

 

 

นาที 23 สเปอร์ส เป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1:0 เมื่อ อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช กองหลังบาเซิ่ล ห้ามบอลเสียทำให้ คลิ้นท์ เดมป์ซี่ย์ แตะบอลหลีกหนี ยานน์ ซอมเมอร์ แล้วยิงเข้าไปโล่งๆ

นาที 27 เจ้าบ้านตามตีเสมอทันควันเมื่อ สเปอร์ส จ่ายบอลไปติดกันเองทำให้ มาร์โก้ สเตรลเลอร์ ได้บอลแล้วจ่ายให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ร่วงทางขวาก่อนจะยิงเบียดเสาเข้าไปเป็น 1:1

นาที 49 เอฟซี บาเซิ่ล มาได้ประตูขึ้นนำจังหวะที่ แบร็ด ฟรีเดล ปัดบอลมาเข้าเท้า อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช ยิงซ้ำจ่อๆ ไม่พลาด 2:1

นาที 83 สเปอร์ส ตีเป็นนิจศีลเมื่อ ทอม ฮัดเดิลสตัน วางบอลยาวมาให้ คลิ้นท์ เดมป์ซี่ย์ พักอกแล้วสลัดด้วยซ้ายโดนปลายมือ ยานน์ ซอมเมอร์ แต่ด้วยความแรงทำให้เด้งเข้าประตูไปเป็น 2:2

นาที 90+1 สเปอร์ส เหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ ยาน แฟร์ตอนเก้น เป็นตัวสุดท้ายเข้าสกัด โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ทำให้โดนใบแดงไล่ออกสนามทันที

จบเกมเป็นนิจศีลกัน 2:2 รวมผลสองนัดเป็นนิจศีลกันที่ 4:4 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที แต่ทั้งสองทีมก็ทำอะไรกันไม่ได้อีกจนต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ

ผลการดวลจุดโทษ
บาเซิ่ล
1. ฟาเบียน ชาร์ --> เข้า
2. มาร์โก้ สเตรลเลอร์ --> เข้า
3. ฟาเบียน ฟราย --> เข้า
4. ดิอาส --> เข้า
5.

สเปอร์ส
1. ทอม ฮัดเดิลสตัน --> ไม่เข้า
2. กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน --> เข้า
3. เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ --> ไม่เข้า
4.
5.

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เอฟซี บาเซิ่ล ระบบ : 4-3-3
แพทย์ช่อง : ยานน์ ซอมเมอร์
กองหลัง : ฟิลิปป์ เดเก้น, ฟาเบียน ชาร์, อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช, ปาร์ค จู โฮ
กองกลาง : โมฮาเหม็ด เอล เนนนี่, ฟาเบียน ฟราย, เซเรโซ่ เจฟฟรีย์ เดีย(ดิอาส น.58)
กองหน้า : โมฮาเหม็ด ซาล่าห์(ฟราย น.111), มาร์โก้ สเตรลเลอร์, วาเลนติน สต็อคเก้อร์(สไตน์โฮเฟอร์ น.71)

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ระบบ : 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : แบร็ด ฟรีเดล
กองหลัง : ไคล์ วอล์คเกอร์, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, ยาน แฟร์ตอนเก้น, ไคล์ นอจ์ตัน(เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ น.79)
กองกลาง : มุสซ่า เดมเบเล่(คาร์โรลล์ น.59), สก็อตต์ ปาร์คเก้อร์(ทอม ฮัดเดิลสตัน น.78) - ลูอิส โฮลท์บี้, คลิ้นท์ เดมป์ซี่ย์, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน
กองหน้า : เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

 

FC Basel 2-2 Tottenham Hotspur Highlights


ติดตาม ข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่



ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
http://วิเคราะห์บอล.atacousticguitars.com/
http://xn--42c8b0ajg0apvrr6k8f.atacousticguitars.com/

วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2556

ฮัลซี่ย์นึกถึงเปา4เกมวิลล่าฉะเศรษฐี

http://p3.s1sf.com/ns/0/wb/i/ud/235/1179568/h.jpg;r:width=300,height=172;static:p_s1sf_ns_0;file:dca4d9.jpg


วิเคราะห์บอล : ฮัลซี่ย์ คัมแบ๊คเปาที่ 4 ในเกม วิลล่า ทำศึกกับ "เจ้าสัวน้อย" หลังถูก "เอฟเอ" ลงดาบให้ไปทำภาระหน้าที่ในลีกรองเมืองผู้ดี 2 นัด

มา ร์ค ฮัลซี่ย์ ผู้ตัดสินชาวอังกฤษ จะได้กลับมาทำภาระหน้าที่เป็นผู้ตัดสินที่ 4 ในเกมที่ แอสตัน วิลล่า สโมสรชั้นนำแห่งศึก พรีเมียร์ลีก จะเปิดรัง วิลล่า พาร์ค รับการมาเยือนของ ฟูแล่ม ในเกมลีกคืนวันเสาร์นี้ (13 เม.ย.)
หลัง จากถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ "เอฟเอ" ตัดสินลงอาญาให้ไปทำหน้าที่ในลีก แชมป์เปี้ยนส์ชิพ และ ลีกวัน อย่างละ 1 นัด แต่อย่างไรเจ้าตัวจะยังไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินหลักในเกมวันอาทิตย์นี้ (14 เม.ย.) รวมถึงเกมกลางสัปดาห์หน้าด้วยเช่นเดียวกัน
 
เชิ๊ตดำ เลือดผู้ดีวัย 51 ปีไม่ได้ลงทำภาระหน้าที่วินิจฉัยในเกม พรีเมียร์ลีก 3 เกมติดต่อกัน หลังจากวินิจฉัยทำผิดโดยไม่ยอมแจกใบแดงให้กับ คัลลั่ม แม็คมานามาน หัวหอกดาวรุ่งของ วีแกน แอธเลติก
จากจังหวะเข้าสกัดอย่าง รุนแรงใส่ มัสซาดิโอ เอดาร่า แบ็กซ้ายของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในเกมที่ "เดอะ ลาติกส์" เฉือน "สาลิกาดง" 2-1 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา จึงถูก "เอฟเอ" สั่งลงโทษให้มาทำหน้าที่ในลีกรองของเมืองผู้ดี
   
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติมได้ที่ http://วิเคราะห์บอล.atacousticguitars.com/
http://xn--42c8b0ajg0apvrr6k8f.atacousticguitars.com/

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

“เนเกรโด“ซัดเบิ้ล เซบีญาเปิดที่อยู่ปาดบิลเบา 2-1

 


“เนเกรโด“ซัดเบิ้ล เซบีญาเปิดรังชำแหละบิลเบา 2-1+คลิป 
“เนเกรโด“ซัดเบิ้ล เซบีญาเปิดรังชำแหละบิลเบา 2-1+คลิป



ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน

ฤดูกาล 2012-2013

วันจันทร์ที่ 8 เมษายน 2556

เซบีย่า 2 - 1 แอธเลติก บิลเบา

สนาม : ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน

 

 



เริ่มเกมได้ 4 นาที อัลบาโร เนเกรโด ยิงให้เจ้าถิ่น"เซบีญา"ออกนำก่อน 1-0

เริ่มครึ่งหลัง น.55 ทีมเยือน บิลเบาก็ตาม ตีเสมอเป็น ผลบอล 1-1 จาก คาร์ลอส กูร์เปกี

ก่อนหมดเวลา 3 นาที เนเกรโด ก็มายิงที่นี่ชัย เป็นลูกที่ 2 ของตัวเอง ทำให้ เซบีญา ชำแหละ แอธฯ บิลเบา ไปได้ในที่สุด 2-1

"สำหรับเกมนี้ทั้ง 2 ทีมต้องเหลือผู้เล่นฝ่ายละ 10 คนเท่ากัน"


วิเคราะห์บอล : 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม

เซบีย่า (4-2-3-1) : เบโต้ - โคเก้, เฟเดริโก้ ฟาซิโอ้, เฟร์นานโด นาบาร์โร่, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - การี่ เมเดล , กรุฟเฟรย์ กงด็อกเบีย - มานูเอล เดล โมราล, อีวาน ราคิติช , โฆเซ่ เรเยส - อัลบาโร่ เนเกรโด้

แอธ.บิลเบา (3-4-3) : กอร์ก้า อีไรซอซ - อายเมริค ลาปอร์เต้, การ์ลอส กูร์เปกี , บอร์ซ่า เอคิซ่า - อันโดนี่ อิราโอล่า, มิเกล ซาน โฆเซ่ , อันเดร์ เอร์เรร่า , ออสการ์ เด มาร์กอส - อิเกร์ มูเนียอิน, อาริตซ์ อาดูริซ , อิบาอิ โกเมซ

 

Sevilla 2-1 Athletic



ติดตาม ข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556

วิเคราะห์บอล เรอัล มาดริด – กาลาตาซาราย

 


วิเคราะห์บอล เรอัล มาดริด - กาลาตาซาราย 
วิเคราะห์บอล เรอัล มาดริด - กาลาตาซาราย

 

วิเคราะห์บอล ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์

เรอัล มาดริด - กาลาตาซาราย

เวลา: 01.45 น.
สนาม: ซานติอาโก เบอร์นาบิว
ผู้ตัดสิน: สเวน โมเอน (นอร์เวย์)
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 1

 

 

 

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เรอัล มาดริด

30 มี.ค. 56 เสมอ ซาราโกซ่า 1-1 (เยือน) ลา ลีกา
16 มี.ค. 56 ชนะ มาญอร์ก้า 5-2 (เหย้า) ลา ลีกา
10 มี.ค. 56 ชนะ เซลต้า 2-1 (เยือน) ลา ลีกา
5 มี.ค. 56 ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก
2 มี.ค. 56 ชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 (เหย้า) ลา ลีกา

กาลาตาซาราย

30 มี.ค. 56 ชนะ อิสตันบูล 2-0 (เหย้า) ซูเปอร์ลีกตุรกี
17 มี.ค. 56 ชนะ เคย์เซริสปอร์ 3-1 (เยือน) ซูเปอร์ลีกตุรกี
12 มี.ค. 56 ชนะ ชาลเก้ 3-2 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก
8 มี.ค. 56 แพ้ เกนเคลียร์เบอร์ลิกี้ 0-1 (เหย้า) ซูเปอร์ลีกตุรกี
2 มี.ค. 56 เสมอ เอสคิเซเฮอร์สปอร์ 0-0 (เยือน) ซูเปอร์ลีกตุรกี

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

18 เม.ย. 44 แชมเปี้ยนส์ลีก เรอัล มาดริด 3-0 กาลาตาซาราย
3 เม.ย. 44 แชมเปี้ยนส์ลีก กาลาตาซาราย 3-2 เรอัล มาริด
25 ส.ค. 43 ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ เรอัล มาดริด 1-2 กาลาตาซาราย

ความพร้อม-สภาพทีม

เรอัล มาดริด

ราชันชุดขาวสถานภาพทีมสมบูรณ์เต็มร้อย หลังอิเคร์ คาซิญาส แพทย์ประตูทีมชาติสเปน ฟิตกลับมาแล้วจากการพักไปกว่าสองเดือนเพราะบาดเจ็บที่มือ แต่จะยังไม่กลับมามีส่วนร่วมในเกมนี้ โดยดิเอโก้ โลเปซจะรับภาระเฝ้าเสาต่อไป

ส่วนราฟาเอล วาราเน่ กองหลังดาวรุ่ง ก็พร้อมทั้งกลับมาทำภาระได้อีกครั้ง หลังมีท่วงท่าป่วยไข้หลังมาจากการเริ่มต้นสนามให้ทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ จนถูกพักเอาไว้ในเกมลา ลีกานัดล่าสุด เช่นเดียวกับฟาบิโอ โคเอนเทรา แบ็กซ้ายทีมชาติโปรตุเกส ที่มีท่วงท่าป่วยไข้เท้าจนถูกพักเอาไว้ในเกมเดียวกัน

ในแดนกลางคงจะส่งชาบี้ อลอนโซ่ และ ซามี่ เคดิร่า สองมิดฟิลด์ตัวหลัก ซึ่งถูกพักเอาไว้เมื่อสุดสัปดาห์ กลับมาลงทำหน้าที่อีกครั้ง

ส่วนเกมรุกคงจะกระจายกลับมาใช้ชุดใหญ่เช่นกัน โดยมี คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่จะยังเป็นแกนหลักคนเดียวที่หลงเหลือมาจากเกมล่าสุด ส่วนอังเคล ดิ มาเรีย กับ เมซุต โอซิล จะกลับมาลงเล่นอีกครั้ง โดย คาริม เบนเซม่า น่าจะกลับมายืนเป็นหัวหอกตัวเป้าแทน กอนซาโล่ อิกวาอินบ้าง

ความพร้อม-สภาพทีม

กาลาตาซาราย

กาลาฯ ก็มีนักเตะฟุตบอลให้ใช้งานได้อย่างฟูลทีมเช่นกัน โดย โยฮัน เอลมานเดอร์ กองหน้าตัวเก๋าชาวเดนมาร์ก กลับมาซ้อมอย่างเต็มตัวได้แล้ว นับตั้งแต่พักไปนานสองเดือนเพราะป่วยไข้เท้า ส่วน โทมัส อูจ์ฟาลูซี่ กองหลังกัปตันทีม ก็หายป่วยไข้เข่ากลับมาลงซ้อมเบาๆ ได้แล้ว หลังพักยาวมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล และไม่ได้ถูกส่งชื่อลงเตะรายการนี้ด้วย

อัลเบิร์ต ริเอร่า วิงแบ็กชาวสเปน คงจะกลับมาประจำในแนวรับฝั่งซ้ายตามเดิม หลังถูกพักไว้เป็นตัวสำรองในเกมลีกนัดล่าสุด นอกจากนั้นคงจะเป็นนักเตะตัวหลักชุดเดิมๆ ที่พร้อมทั้งลงสนามได้อีกครั้ง

เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ เพลย์เมกเกอร์ชาวดัตช์ พร้อมทั้งลงเจอกับเหล่าเก่าได้ หลังคืนความฟิตจากท่วงท่าบาดเจ็บที่โคนขาหนีบจากเกมทีมชาติ กลับมาลงสนามได้ตามปกติแล้ว โดยมี ฮามิต อัลตินท็อป มิดฟิลด์เหล่าชาติตุรกี เป็นอีกหนึ่งเด็กเก่าชุดขาว ที่จะลงมาเป็นตัวยืนในแดนกลางนัดนี้

ส่วนแนวรุกของทีมจะนำพาโดย บูรัค ยิลมาซ ดาวซัลโวสูงสุดของทะเบียนนี้ในฤดูกาลนี้ร่วมกับ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่จะลงเล่นคู่กับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงตัวเก๋า ซึ่งจะอายุครบ 35 ปีเต็มในเดือนนี้

วิเคราะห์รูปเกม

มาดริดได้เจองานเบาในรอบนี้หลังผ่านด่านของแข็งมาได้ในรอบก่อน คงจะไม่ยอมเสียท่าตกม้าตายง่ายๆ แน่ และคงจะจัดเต็มกับเกมแรกในบ้านเพื่อจะได้ไม่ต้องเปลี้ยในนัดที่สอง นัดนี้ราชันชุดขาวมีนักเตะให้เลือกใช้งานท่วมท้น และไม่ว่าจะจัดชุดไหนลงเล่นก็ยังเป็นต่อกาลาฯ ผู้มาเยี่ยมเยียนบานเบอะ เจ้าถิ่นคงจะเป็นฝ่ายเปิดเกมเหยียบไปป่นปี้เข้าใส่ ส่วนทีมเยี่ยมเยียนก็คงต้องเน้นรับให้แน่นแฟ้น และใช้เกมหนักเข้าบดบี้ โดยหวังทางสวนกลับเด็ดๆ ซักดอกสองดอก แต่เกมบุกของเจ้าบ้านน่าจะยังเฉียบขาดพอจะประคองตัวเก็บความสำเร็จไปได้เบาๆ คงจะจะไม่ถึงกับขาดลอยจนไม่ได้ลุ้นต่อนัดสอง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

เรอัล มาดริด (4-2-3-1): ดิเอโก้ โลเปซ; อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส, ราฟาเอล วาราเน่, ฟาบิโอ โคเอนเทรา; ชาบี้ อลอนโซ่, ซามี่ เคดิร่า; อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสติอาโน่ โรนัลโด้; คาริม เบนเซม่า
โค้ช: โจเซ่ มูรินโญ่

กาลาตาซาราย (4-3-1-2): เฟอร์นานโด มุสเลร่า; เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เซมีห์ คาย่า, ซามี่ คาย่า, อัลเบิร์ต ริเอร่า; ฮามิต อัลตินท็อป, เฟลิเป้ เมโล, เซลชุค อินาน; เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์; บูรัค ยิลมาซ, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
โค้ช: ฟาติห์ เตริม

ฮอตสกอร์: มาดริดชนะ ผลบอล 2-0

เกร็ดย่อย

* คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เป็นดาวซัลโวสูงสุดร่วมในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ โดยทำไป 8 ประตู เท่ากับบูรัค ยิลมาซ โดยเขายังซัลโวไปถึง 17 ประตู ในการลงสนาม 15 นัดหลังสุดในทะเบียนนี้ด้วย
* โรนัลโด้ มีหนทางยิงเข้ากรอบไปแล้ว 41 ครั้ง และยิงออกนอกกรอบ 16 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดของแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ ส่วนมาดริดก็เป็นเหล่าที่ยิงเข้ากรอบมากที่สุดเช่นกัน (104 ครั้ง)
* มาดริดทำไปแล้ว 18 ประตู ในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ สูงที่สุดเท่ากับบาเยิร์น ส่วน 11 ประตูที่เสียไปก็สูงที่สุดในบรรดาทีมที่ยังอยู่ในการขันแข่งเช่นกัน และราชันชุดขาวยังรักษาคลีนชีตไม่ได้เลยอีกด้วย
* อังเคล ดิ มาเรีย ทำแอสซิสต์สูงที่สุดร่วมในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ 5 ครั้งเท่ากับซลาตัน อิบราฮิโมวิช
* โฆเซ่ โรดริเกซ ทำลายสถิติของ ราอูล กอนซาเลซ ในการเป็นนักเตะมาดริดที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้ทีมในฟุตบอลถ้วยยุโรปที่ 17 ปี 353 วัน
* โรนัลโด้ ทำไปแล้ว 105 ประตู ในการลงเตะให้มาดริด 93 นัดที่ซานติอาโก เบอร์นาบิว
* มาดริดไม่พ่ายแพ้ใครในบ้านโทรศัพท์กันมาแล้ว 37 นัด นับตั้งแต่แพ้บาร์เซโลน่าในโคปา เดล เรย์เมื่อ 18 มกราคม 2012
* กาลาฯ ทำประตูในการขันแข่งฟุตบอลถ้วยยุโรปไปแล้ว 345 ลูก และเสียไป 346 ลูก
* กาลาฯ เอาชนะนอกบ้านตลอด 3 นัดหลังสุดที่ลงเตะแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ หลังจากไม่เอาชนะเกมเยือนมา 9 นัดติด ในการลงเตะถ้วยยุโรปก่อนหน้านี้ โดยแพ้ถึง 8 นัด ก่อนจะชนะคลูจ์ได้ในนัดที่ 4 ของรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาลนี้
* บูรัค ยิลมาซ กลายเป็นนักเตะตุรกีคนที่สองที่ทำแฮตทริกได้ในแชมเปี้ยนส์ลีกในเกมที่บุกไปชนะคลูจ์ในฤดูกาลนี้ ต่อจาก ตุนกาย ซานลี่ ที่ทำแฮตทริกให้เฟเนอร์บาห์เช่ในเกมที่ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 เมื่อปี 2004
* 8 ประตู ของยิลมาซ ซึ่งทำให้เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดร่วมในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ ถือเป็นการยิงได้มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลของนักเตะจากสโมสรในตุรกี หลังจาก มาริโอ ชาร์เดล เคยทำไว้ 6 ลูก ให้กาลาฯ เมื่อฤดูกาล 2001/02
* ยิลมาซ ยังเป็นนักเตะตุรกีคนแรกที่ลงเตะให้ 4 สโมสรในแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย หลังจากเคยลงเตะในทะเบียนนี้กับเบซิคตัส, เฟเนอร์บาห์เช่ และแทร็ปซอนสปอร์มาแล้ว
* กาลาฯ ทำไป 11 ประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ น้อยกว่าทุกทีมที่ยังอยู่ในการแข่งขัน

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556

วิเคราะห์บอล เปแอสเช - บาร์เซโลน่า

 


วิเคราะห์บอล  เปแอสเช - บาร์เซโลน่า 
วิเคราะห์บอล  เปแอสเช - บาร์เซโลน่า

 

วิเคราะห์บอล ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์

เปแอสเช - บาร์เซโลน่า

เวลา: 01.45 น.
สนาม: ปาร์ก เดส์ แปรงส์
ผู้ตัดสิน: โวล์ฟกัง สตาร์ค (เยอรมนี)
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 1

 

 

 

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เปแอสเช

29 มี.ค. 56 ชนะ มงต์เปลลิเยร์ 1-0 (เหย้า) ลีกเอิง
17 มี.ค. 56 เสมอ แซงต์ เอเตียน 2-2 (เยือน) ลีกเอิง
9 มี.ค. 56 ชนะ น็องซี่ 2-1 (เหย้า) ลีกเอิง
6 มี.ค. 56 เสมอ บาเลนเซีย 1-1 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก
2 มี.ค. 56 แพ้ แร็งส์ 0-1 (เยือน) ลีกเอิง

บาร์เซโลน่า

30 มี.ค. 56 เสมอ เซลต้า 2-2 (เยือน) ลา ลีกา
17 มี.ค. 56 ชนะ ราโย 3-1 (เหย้า) ลา ลีกา
12 มี.ค. 56 ชนะ เอซี มิลาน 4-0 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก
9 มี.ค. 56 ชนะ ลา คอรุนญ่า 2-0 (เหย้า) ลา ลีกา
2 มี.ค. 56 แพ้ เรอัล มาดริด 1-2 (เยือน) ลา ลีกา

งานการพบกันที่ผ่านมา

14 พ.ค. 40 คัพวินเนอร์ส คัพ บาร์เซโลน่า 1-0 เปแอสเช
15 มี.ค. 38 แชมเปี้ยนส์ ลีก เปแอสเช 2-1 บาร์เซโลน่า
1 มี.ค. 38 แชมเปี้ยนส์ ลีก บาร์เซโลน่า 1-1 เปแอสเช

ความกับ-ระดับทีม

เปแอสเช

เปแอสเชได้เฮเมื่อ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงตัวความใฝ่ฝัน เอาชนะอุทธรณ์อธิกรณ์แบนจากใบแดงที่ได้รับในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก ทำให้โดนกักแข้งแค่นัดเดียวจาก 2 นัด และกับกลับมาลงเตะกับทีมเก่าได้ในนัดนี้

ส่วน มาร์โก แวร์รัตติ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง ก็ล่วงเลยอธิกรณ์แบนกลับมาแล้ว และคงจะได้ลงมาเป็นตัวหลักตรงกลางสนามคู่กับ แบลส มาตุยดี้ อีกครั้ง ส่วน เดวิด เบ็คแฮม ซูเปอร์สตาร์รุ่นใหญ่ คงต้องรอโอกาสลงมาเป็นโจ๊กเกอร์จากม้านั่งสำรองไปก่อน

ติอาโก้ ม็อตต้า อีกหนึ่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ซึ่งฟิตกลับมาลงเล่นแทนแวร์รัตติในนัดที่แล้ว ก็มีข้อสงสัยกับอาการบาดเจ็บเดิมๆ อีก ทำให้ต้องพักไปอีกรอบ และหมดสิทธิมีส่วนร่วมในนัดนี้

เกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ คงจะส่งนักเตะตัวหลักที่ถูกพักไว้ในเกมลีกนัดล่าสุดกลับมาลงสนามอย่างกับหน้า โดย ลูคัส มูร่า ปีกทีมรัฐบราซิล จะกลับมาเป็นตัวขึ้นเกมรุกฝั่งขวาอีกครั้ง ส่วน เอเซเกล ลาเวซซี่ กองหน้าอาร์เจนไตน์ ก็จะลงมาเล่นในแนวรุกเช่นกัน

ส่วนแนวรับมีฐานันดรแบ็กขวาที่ต้องวินิจฉัยใจว่าจะส่งใครลงทำหน้าที่ระหว่าง คริสตอฟ ฌัลเลต์กับ เกรกอรี่ ฟาน เดอ วีล หลังจากรายแรกเจ็บไปในเกมที่แล้วของถ้วยใบนี้ แต่ก็คืนความฟิตกลับมาลงเล่นเป็นตัวรองรังในสองเกมหลังสุดได้แล้ว

ผู้เล่นบาดเจ็บ: ติอาโก้ ม็อตต้า

ความพร้อม-สภาพทีม

บาร์เซโลน่า

เปโดร โรดริเกซ กองหน้าทีมชาติสเปน ชวดบู๊นัดนี้เพราะติดอธิกรณ์แบนหนึ่งนัดจากการสะสมใบเหลืองครบโควตาไปในนัดล่าสุด ทำให้เชส ฟาเบรกาส น่าจะมีครั้งได้ลงมาเป็นหนึ่งในสามประสานแดนหน้าบ้างในนัดนี้

ส่วน บิคตอร์ บัลเดส ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง พร้อมลงเฝ้าเสาได้ในรายการนี้ แม้จะยังอยู่ระหว่างการใช้โทษตากในลีก 4 นัดอยู่ ทำให้โฆเซ่ ปินโต้ คงต้องกลับไปนั่งรองรังบ้าง

คาร์เลส ปูโยล และอาเดรียโน่เป็นสองกองหลังที่ยังไม่ฟิตกลับมาจากท่วงท่าบาดเจ็บ แต่ ฆอร์ดี้ อัลบา แบ็กซ้ายตัวหลัก สลัดข้อสงสัยการบาดเจ็บเล็กน้อยที่ได้รับจากเกมทีมชาติสเปนกลับมาได้แล้ว

ส่วน ชาบี้ เอร์นานเดซ มิดฟิลด์จอมทัพ เป็นอีกคนที่พร้อมลงมาคุมเกมแดนกลางเช่นเดิม หลังจากเจ็บแฮมสตริงมาจากเกมทีมชาติ จนพลาดเกมลีกนัดล่าสุดมาแล้ว

ขณะที่นักเตะฟุตบอลตัวหลักๆ อย่าง ฮาเวียร์ มาสเชราโน่, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อินิเอสต้า และดาวิด บีญ่า ซึ่งได้พักไปในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ คงจะกลับมาลงสนามอย่างกับหน้าอีกครั้ง โดยมี ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะตัวเก่ง เป็นตัวหลักในแนวรุกเช่นเดิม

ผู้เล่นบาดเจ็บ: คาร์เลส ปูโยล, อาเดรียโน่

ผู้เล่นโดนแบน: เปโดร โรดริเกซ

วิเคราะห์รูปเกม

เปแอสเชต้องมานะเค้นทุกอย่างออกมาในเกมนี้เพื่อจะคว้าความมีชัยให้ได้ก่อน เพราะเป็นหนทางเดียวหากอยากผ่านบาร์ซ่าให้ได้ ทำให้เกมนี้เจ้าถิ่นคงเล่นไม่ง่ายนัก เพราะต้องมานะลุ้นทำประตูชัยด้วย แต่เกมรับก็ต้องเหนียวเพื่อไม่ให้เสียประตูทีมเยือน ดูแล้วเหงื่อตกกีบแน่ เพราะผลงานของทีมก็ไม่ค่อยเด่นเด้งมากนัก แถมบาร์ซ่ายังเป็นทีมที่พร้อมกะซวกคู่ต่อสู้ได้ทุกเมื่อ แม้รอบที่แล้วจะเผอเรอท่าเสียทีให้มิลานก่อนในเกมนอกบ้านนัดแรก แต่ก็คงจะทำให้เกมนี้วางแผนมาดีขึ้น และยังน่าจะมีภาษีดีกว่าที่จะบุกมาดับความหวังทีมเศรษฐีใหม่อย่างเปแอสเชลงได้ตั้งแต่นัดนี้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

เปแอสเช (4-4-2): ซัลวาตอเร่ ซิริกู; คริสตอฟ ฌัลเลต์, ติอาโก้ ซิลวา, อเล็กซ์, แม็กซ์เวลล์; ลูคัส มูร่า, แบลส มาตุยดี้, มาร์โก แวร์รัตติ, ฮาเวียร์ ปาสโตเร่; เอเซเกล ลาเวซซี่, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
โค้ช: คาร์โล อันเชล็อตติ

บาร์เซโลน่า (4-3-3): บิคตอร์ บัลเดส; ดานี่ อัลเวส, ฮาเวียร์ มาสเชราโน่, เจราร์ด ปิเก้, ฆอร์ดี้ อัลบา; ชาบี้ เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อินิเอสต้า; เชส ฟาเบรกาส, ลิโอเนล เมสซี่, ดาวิด บีญ่า 
โค้ช: ติโต้ บีลาโนบา

ฮอตสกอร์: บาร์ซ่าชนะ ผลบอล 2-1

เกร็ดย่อย

* คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นเพียงโค้ชคนที่ 2 ต่อจาก โจเซ่ มูรินโญ่ ที่นำ 4 ทีมผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายของแชมเปี้ยนส์ลีกได้ ได้แก่ มิลาน, ยูเวนตุส, เชลซี และ เปแอสเช
* ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูให้กับ 6 ทีมในแชมเปี้ยนส์ลีก ได้แก่ ไอแอ๊กซ์, ยูเวนตุส, อินเตอร์, บาร์เซโลน่า, มิลาน และ เปแอสเช
* เปแอสเชเป็นทีมที่เสียล้ำหน้ามากที่สุดในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ (35 ครั้ง)
* บาร์เซโลน่ามีอัตราส่วนของการครองบอลเฉลี่ยต่อเกมถึง 69% แล่จ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 84% ซึ่งเป็นสถิติที่สูงกว่าทุกทีมในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้
* ชาบี้ เอร์นานเดซ จ่ายบอลสำเร็จ 856 ครั้งในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ มากกว่านักเตะในอันดับรองลงไปถึง 391 ครั้ง แม้จะไม่ได้ลงเตะในเกมที่ 6 ของรอบแบ่งกลุ่มก็ตาม โดยเขามีอัตราส่วนของการจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 89%
* ลิโอเนล เมสซี่ ทำไปแล้ว 58 ประตูในแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นรองเพียง ราอูล กอนซาเลซ เจ้าของสถิติสูงสุด ซึ่งทำไว้ 71 ลูก
* เมสซี่ สร้างสถิติทำที่นี่ติดต่อสื่อสารกันในลา ลีกา 19 นัด ทุบสถิติเดิมที่เคยถูกทำไว้ 10 นัดลงอย่างกระจุยห่างๆ และเขายังกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูคู่ต่อสู้ทุกทีมในลา ลีกาได้ด้วย

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2556

สิงโตบุกกรีดมอนเต,กระทิงบุกขวิดตราไก่นำฝูง

 


สิงโตบุกเฉือนมอนเต,กระทิงบุกขวิดตราไก่นำฝูง 
สิงโตบุกเฉือนมอนเต,กระทิงบุกขวิดตราไก่นำฝูง

วิเคราะห์บอล : ด้วยว่าวันนี้ก็ยังมีฟุตบอลโลกรอบเฟ้นหาโซนยุโรปอีกทีมละหนึ่งนัดก่อนที่จะกลับไปเตะฟุตบอลลีกกันอย่างเคย ซึ่งมีบิ๊กแมตช์ที่น่ามุ่งมั่นและจะนำมาตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์กันสองคู่ 

เริ่มจากเกมระหว่างทีมแกร่งจากยุโรปตะวันออกอย่างมอนเตเนโกรจะเปิดบ้านรับการมาเยี่ยมเยือนของขุนพล “ทรีไลอ้อน” อังกฤษ ในกลุ่มเอช 

ขณะที่อีกคู่เป็น “ตราไก่” ฝรั่งเศสจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “กระทิงดุ” สเปน เพื่อแย่งตำแหน่งจ่าฝูงของกล่มไอ โดยทีมแชมป์กลุ่มจะได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติไม่ต้องไปเพลย์ออฟ

 



ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป มอนเตเนโกร พบ อังกฤษ




ทั้งคู่เพิ่งเอาเอาชนะคู่แข่งที่อ่อนชั้นกว่าได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็น่าจะเป็นการเรียกความแน่ใจอย่างดีก่อนเจองานหนักในนัดนี้ ทำให้บลังโก้ เบอร์โนวิช ไม่ค้องห่วงเรื่องของความแน่ใจลูกทีมนอกจากเรื่องแท็กติกแผนการเล่นมากกว่าที่ต้องเน้นเกมรับขวนขวายครองความได้เปรียบในแดนกลางให้ได้แถมข่าวดีคือไม่มีนักเตะตัวหลักบาดเจ็บหรือติดโทษแบนจึงน่าจะใช้ชุดเดิมถ่ายแบบที่ผ่านๆ มาเล่นในระบบ 4-4-2

 



เริ่มจากมลาเดน โบโซวิชเป็นแพทย์ประตู แนวรับต่อเรือไปด้วยสเตฟาน ซาวิช, มาร์โก บาซ่า, มิโอแดร็ก ชูโดวิชและมิลาน โยวาโนวิช ตรงกลางให้นิโคล่า ดรินซิสกับกับมิโรราด เปโควิช คอยตัดเกมกับตัวทำเกมอย่างวิคเตอร์ โกโลวาเทนโก้กับไซม่อน วุคเชวิช ในที่สุดคู่กองหน้าเป็นสเตวาน โยเวติชกับมีร์โก วูชินิช

 



หมู่ชาติอังกฤษของรอย อ็อดจ์สันเพิ่งถล่มทีมอ่อนชั้นกว่าไปได้ 8 ประตูจึงวัดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องของความมั่นใจที่กลับมามุ่งมั่น อย่างไรก็ตามนัดนี้ทีมต้องต้องเก็บสามแต้มให้ได้เพื่อแซงฝ่ายตรงข้ามขึ้นเป็นแชมป์กลุ่มที่จะผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบในที่สุดแบบไม่ต้องเพลย์ออฟให้ใจหายใจคว่ำ 

ส่วนเรื่องตัวผู้เล่นไม่ต่างจากเดิมที่ น่ากังวลคงเป็นเรื่องเกมรับที่ต้องเจอของจริงแล้วหลังจากตัวหลักในตอนแรกถอนตัวหมดไม่ว่าจะเป็นแกรี่ เคฮิลล์หรือริโอ เฟอร์ดินานด์ โดยหมู่จะมาเล่นในระบบเดิมคือ 4-2-3-1

 


 

เริ่มจากโจ ฮาร์ทเป็นแพทย์ช่อง แนวรับต่อเรือไปด้วยเกล็น จอห์นสัน, โจลีออน เลสคอตต์, แกรี่ เคฮิลล์และเลห์ตัน เบนส์ ตัดตัดเกมให้สก็อต ปาร์คเกอร์กับไมเคิล คาร์ริคค่อยช่วยกันกับตัวทำเกมอย่างสตีเว่น เจอร์ราร์ด แฟรงค์ แลมพาร์ดและธีโอ วัลคอตต์ ในขณะที่กองหน้าจะเป็นเวนย์ รูนีย์ลงสนาม


เกมนี้ หมู่วัฏสงสารมอนเตเนโกรเจ้าบ้านเจอกับฝ่ายตรงข้ามที่สมน้ำสมเนื้อเลยทีเดียวจากระบบของทีมที่ไม่ฉีกแนวกันรวมทั้งตัวผู้เล่นเหมือนฝ่ายตรงข้ามที่ทั้งสองเจอมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดูเจ้าบ้านน่าจะมาเน้นเกมรับเพราะแค่เพียงเสมอก็จะสงวนความได้เปรียบมีช่องทางผ่านเข้ารอบสูงในฐานะอันดับหนึ่งของกลุ่ม

ต่างจากอังกฤษที่ต้องเอาชนะสถานเดียวเท่านั้นมิเช่นนั้นล้าแน่ อย่างไรก็ตามในที่สุดเชื่อว่าอังกฤษที่ความชำนาญในเวทีขั้นนานาชาติมากกว่าบวกกับการที่ปู่รอยทำทีมค่อนข้างแน่นแฟ้นน่าจะทำให้ตัดชนะไปได้ในท้ายที่สุด

สกอร์ที่คาด มอนเตเนโกร แพ้ อังกฤษ ผลบอล 1-2




ฝรั่งเศส - สเปน

 

ทีมชาติฝรั่งเศสเป็นจ่าฝูงของกลุ่มหลังจากเอาเอาชนะฝ่ายตรงข้ามมาได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่นัดนี้เหนื่อยแน่กับการเจอทีมใหญ่ที่เหมือนกันแถมความสามารถของฝ่ายตรงข้ามดีกว่าด้วยซ้ำ 

ทำให้กุนซือเจ้าบ้านอย่างดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส ต้องเตรียมทำการบ้านในเรื่องของแท็กติกแผนการในการเล่นเกมรับมาเป็นอย่างดีแน่ ในส่วนขั้นทีมจะขาดแค่มาติเยอ เดบูชี่เพียงคนเดียวที่บาดเจ็บไม่ได้ถูกเรียกตัวเข้ามาติดทีมนอกนั้นไม่มีปมอะไรแถมกำลังแน่ใจกับความสำเร็จที่ผ่านมาอีกด้วย ดูแล้วทีมคงมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม

 



เริ่มจากฮูโก้ โยริสเป็นผู้รักษาประตู แนวรับประกอบไปด้วยปาทริซ เอฟร่า, ราฟาเอล วาราน, มามาดู ซาโก้และกาแอล กลีชี่ แดนกลางมีมักซิม โกนาล็องกับโยฮัน กาบายคอยตัดเกมพร้อมตัวทำเกมอย่างแบลส มาตุยดี้ เฌเรมี่ เมเนซและฟร็องค์ ริเบรี่ ในขณะที่กองหน้าตัวเป้าจะให้โอลิวิเยร์ ชิรูด์ลงสนาม


ทีมชาติสเปนเพิ่งเสียฟอร์มเสมอกับทีมที่เป็นรองกว่าแบบต้องโทษตัวเองที่ยิงกันไม่คมและไปเสียสมาธิในเกมรับเพียงครั้งเดียวจึงทำคะแนนหล่นหายไปถึงสองคะแนน

 


  นัดล่าสุด สเปน เสมอ ฟินแลนด์ 1-1


ทำให้บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือของทีมต้องเรียกฟอร์มของลูกทีมกลับมาให้ได้ถ้าหวังจะเป็นแชมป์กลุ่มเพื่อไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ เรื่องขุมกำลังภายในทีมไม่มีผู้รักษาประตูมือหนึ่งอย่างอิเคร์ คาซิญาสที่เจ็บยาวเพียงคนเดียว ดูแล้วเล่นตามสไตล์ของเดิมของตัวเองมาเน้นครองบอลแดนกลางเพื่อสร้างความได้เปรียบและหาโอกาสเข้าทำ โดยจะมาเล่นในระบบ ระบบ 4-5-1

 



เริ่มจากเปเป้ เรน่าเป็นผู้รักษาประตู ฟุตบอลแนวรับประกอบไปด้วยเซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด, ปิเก้, ราอูล อัลบิโอล และอัลวาโร่ อาร์เบลัว ตรงกลางมีชาบี อลองโซ่กับชาบี เอร์นานเดซคุมจังหวะพร้อมตัวรุกอย่างอันเดรส อินิเอสต้า, เชส ฟาเบรกัสและฆวน มาตา สุดท้ายกองหน้าตัวเป้าจะให้ดาวิด บีย่าที่หายเจ็บกลับมาลงสนาม 
    

เกมนี้ ทีมชาติฝรั่งเศสได้เป็นเจ้าบ้านถึงจะเป็นทีมใหญ่แต่ก็เจอใหญ่กว่าอย่างทีมชาติสเปนที่ดูเป้นต่อในเรื่องของตัวผู้เล่น ระบบทีมรวมทั้งประสบการณ์ที่มีมากกว่าถึงฟอร์มของทีมเยือนจะเพิ่งหลุดเสมอมาก็ตาม 

เกมนี้เจ้าบ้านต้องพยายามตัดเกมตรงกลางของทีมเยือนให้ได้ถ้าหวังจะเก็บสามแต้มในสนามสต๊าด เดอ ฟรอง ของตัวเอง แต่เป็นสเปนที่ต้องมีลูกฮึดเพื่อจะผ่านเข้ารอบรวมทั้งขุมกำลังที่ครบเครื่องมากกว่าจะบุกมาเอาชนะไปได้ในที่สุดครับ

สกอร์ที่คาด ฝรั่งเศส แพ้ สเปน 1-2



เรื่องโดย : Dr.Mao

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่